Showing posts with label smile. Show all posts
Showing posts with label smile. Show all posts

Tuesday, March 17, 2015

โอเคนะคะที่รัก วันนี้คุณน่ารักจัง

เมื่อวานไปตีกอลฟ์มา ระหว่างรออาบน้ำในห้องของสโมสร
ขณะที่อยู่ในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่นั้น ก็มีเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น

ผมหันไปมอง เห็นชายคนนึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นรับสาย
"ฮัลโหล”

"หวัดดีค่ะที่รัก ยังอยู่ที่ฟิตเนสเหรอคะ”
“ใช่จ้ะ”

“ดีจัง ดาวก็ยังอยู่ที่เซ็นทรัลเลยค่ะ เจอเสื้อตัวนึงซ้วยสวย ดาวอยากได้จัง ขอซื้อนะคะ”
“แล้วราคาเท่าไหร่ล่ะจ๊ะ”
“สองหมื่นกว่าเองค่ะ”
“ก็เอาสิ ถ้าคุณชอบนะ”

“แล้วชั้นล่างเค้าเอาบีเอ็มรุ่นใหม่มาโชว์ สวยมากเลยค่ะ ดาวคุยกับเซลส์แล้ว
เค้าบอกถ้าจองวันนี้เค้าจะให้ราคาลดพิเศษสุดเลย…”
“เขาให้ราคาเท่าไหร่ล่ะ”
“สี่ล้านสองเอง”
“โอเค แต่บอกเขาว่าราคานี้ต้องฟูลออปชั่นนะ”

“ดีใจจังเลย แต่ยังมีอีกอย่างค่ะ…”
“อะไรล่ะ”
“คุณอย่าหาว่าดาวยุ่งไม่เข้าท่าเลยนะคะ
เมื่อเช้าดาวขับรถผ่านบ้านที่เราเคยไปดูกันเมื่อสองเดือนที่แล้ว
ตอนนี้เขากำลังมีโปรโมชั่น ลดราคาลงมาตั้งเยอะแน่ะค่ะ…”

“เท่าไหร่ล่ะ”
“ยี่สิบห้าล้านถ้วน แถม…”
“เงินไม่ใช่น้อยเลยนะนั่น”

“แหมที่รักคะ ราคาเต็มเข้าตั้งสามสิบล้านเชียวนะคะ”
“ผมขอคิดดูหน่อยนะ”

“ที่รักคะ วันนี้โปรโมชั่นวันสุดท้ายแล้ว และสำนักงานขายเค้าก็กำลังจะปิดแล้วด้วย
ตอนนี้เซลส์เขารอให้ดาวเขียนเช็คเงินมัดจำให้อยู่น่ะค่ะ”
“ก็แล้วแต่คุณละกัน”

“โอเคนะคะที่รัก วันนี้คุณน่ารักจังขอบคุณค่ะ บ๊ายบาย”

เขาวางโทรศัพท์ไว้บนม้านั่งเหมือนเดิมแล้วหันมาถามคนในห้องว่า
“ใครรู้บ้างครับว่าโทรศัพท์มือถือเครื่องนี่ของใคร!!?”

Sunday, October 19, 2014

สมศักดิ์ ไปซื้อบุหรี่ที่ร้านแห่งหนึ่ง
ซื้อ 20 บาท ให้แบงค์ไปใบละ 50

เถ้าแก่ถอนให้ 40 สมศักดิ์เก็บใส่กระเป๋าแล้วก็เดินไป...

ไปได้ไม่ไกล เถ้าแก่วิ่งไล่มา
“คุณลืมเอาบุหรี่ที่ซื้อไป”

สมศักดิ์ซึ้งมาก หยิบ 10 บาทคืนให้เถ้าแก่
“อันนี้คุณทอนเกิน”

เถ้าแก่ตะลึง
“ไอ้หนุ่ม เอาบุหรี่เมื่อกี้คืนมา เอาของแท้ไป”

สมศักดิ์ซึ้ง จนกลั้นน้ำตาไม่อยู่
“เถ้าแก่ เอาแบงค์ 50 เมื่อกี้มา ผมเปลี่ยนของจริงให้”

เถ้าแก่รับแบงค์จริงจากสมศักดิ์ ซึ้งมากขึ้นอีก
“ไอ้หนุ่ม เอาเงินทอนเมื่อกี้มา ข้าเปลี่ยนแบงค์จริงให้”

สมศักดิ์ซึ้งอีกครั้งหนึ่ง หยิบมือถือออกมาจากกระเป๋า
“เถ้าแก่ เอามือถือของคุณคืนไป”

เถ้าแก่ซึ้งจนน้ำตาไหล มือไม้สั่นหมด หยิบกระป๋าตังค์ออกมา
“ไอ้หนุ่ม วันหน้าระวังกระเป๋าตังค์ให้ดี ๆ นะ”

!!!...(มันดีทั้งคู่ หรือ เลวทั้งคู่???)

Wednesday, September 11, 2013

ABCDEFG... HIJK

เด็กผู้หญิงถามเด็กผู้ชายว่า "ABCDEFG" ย่อมาจากอะไร?
เด็กผู้ชายตอบว่า "A boy can do everything for girl."
เด็กผู้หญิงอมยิ้ม

เด็กผู้ชายอมยิ้มตอบ เพราะยังมี "HIJK"
"He is just kidding!!!"



[cr/via: #LINE AC97 Phoolsawat]

มดน้อยโดนไล่ออกจากงาน

(เรื่องดีดีของชีวิตการทำงาน ^^)

กาลครั้งหนึ่ง... นานมาแล้ว
ทุกๆ วัน มดตัวน้อยมาทำงานแต่เช้า และลงมือทำงานทันที
มดน้อยสร้างผลงานมากมาย และมดน้อยก็มีความสุขกับงานดี

สิงโตที่เป็นหัวหน้า
ก็รู้สึกแปลกใจที่มดน้อยทำงานได้ดีโดยไม่ต้องมีการควบคุม

สิงโตเลยคิดใหม่ทำใหม่
โดยใช้แนวคิดว่า ขนาดไม่มีหัวหน้าดูแลยังทำงานดีเช่นนี้
แล้วถ้ามีหัวหน้า เธอต้องทำงานดีขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย

สิงโตจึงจ้าง แมลงสาบมาเป็นหัวหน้ามดน้อย
และแมลงสาบมีความสามารถมากในเรื่องการเขียนรายงาน

แมลงสาบ เริ่มด้วยการตั้งระบบลงเวลาทำงาน
โดยการตั้งเครื่องตอกบัตร

แมลงสาบต้องการเลขามาช่วยเขียน พิมพ์รายงาน
ชงกาแฟ เดินเอกสาร ส่งจดหมาย และคอยจับผิดมดน้อย
แมลงสาบจึงจ้าง ควายมาเป็นเลขาส่วนตัว

สิงโตปลื้มกับการทำงานของแมลงสาบมาก
ที่ให้รายงานและแนวโน้มต่างๆ
จากที่ส่งให้พิจารณา ทำให้แมลงสาบได้หน้า

เพื่อการนี้ แมลงสาบจึงขอซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์
ติดอินเทอร์เน็ตและเครื่องพิมพ์เพื่อการทำงานให้สิงโต

แน่นอนว่าต้องมี แผนก IT ตามมา
เขาจึงจ้างตัวเห็บมาเป็น IT manager
ตัวเห็บก็ของบประมาณเพื่อ จ้างลูกมือและอุปกรณ์ซ่อม

แต่มดเบื่อกับระบบงานแบบใหม่มาก
เพราะมัวแต่รายงาน งานเอกสารมากมาย
และการประชุมที่แสนเสียเวลา

แมลงสาบเห็นมดน้อยทำงานช้าขึ้นเพราะต้องเขียนรายงาน
จึงคัดเลือกหาหัวหน้าแผนกมาคอยดูและจดรายงาน

ตำแหน่งนี้ตกเป็นของ ตัวทาก
ตัวทากเป็นบุคลากรที่ทำงานได้อย่างเชื่องช้ามาก
จึงดูเป็นคนที่รอบคอบ และได้รับตำแหน่งหัวหน้าแผนกไป

และแผนกที่มดน้อยทำงานก็เป็นแผนกที่โศกเศร้า
ไร้เสียงหัวเราะ ทุกคนในแผนกก็หัวเสียง่าย

ตัวทากของบฯ ทำการสำรวจ ศึกษา สภาพการทำงานที่เหมาะสม
แผนกมดน้อย ทำงานได้แย่ลง

สิงโตก็เห็นด้วยว่าที่แผนกมด ทำงานได้แย่ลง
จึงจ้างตัว (ตัวเงินตัวทอง) เข้ามาเป็นที่ปรึกษา
เพื่อศึกษาวิธีการที่จะเพิ่มผลิตภาพ

ตัวสรุปว่า ที่แผนกของมดน้อย
มีการจ้างคนมากเกินไปเลยทำให้ผลิตภาพไม่ดี

เดากันน่ะ... ว่าใครจะถูกปลดออกเป็นคนแรก
v
v
v
v
v
v
มดน้อยนั่นเอง
เพราะตัว (...) บอกว่า มดน้อยเป็นคนที่ไร้แรงจูงใจ และทัศนคติไม่ดี
ลาก่อน... มดน้อย

แล้วคุณล่ะเป็นใครในนี้บ้างเอ่ย ^^



[cr/via: yut #LINE; People Magazine]
อันนี้เป็นเรื่องจริงไม่อิงนิยายที่เกิดขึ้นในอเมริกา
แขกมันสุดยอด

ชาวอินเดียคนนึงเดินเข้าไปในธนาคารที่เมืองนิวยอร์ก แล้วถามหาเจ้าหน้าที่สินเชื่อ เขาบอกเจ้าหน้าที่สินเชื่อว่า เขาจะไปทำธุระที่อินเดีย 2 สัปดาห์ และต้องการขอกู้เงิน 5,000 ดอลลาร์

เจ้าหน้าที่สินเชื่อแจ้งว่าทางธนาคารจำเป็นต้องขอหลักทรัพย์เพื่อค้ำประกันเงินกู้ ได้ยินดังนั้นชาวอินเดียก็โชว์กุญแจรถเฟอรารี่ใหม่เอี่ยม ที่จอดอยู่บนถนนหน้าธนาคาร

เขาแสดงหลักฐานและทั้งหมดถูกตรวจสอบว่าถูกต้อง เจ้าหน้าที่สินเชื่อตกลงรับรถคันนั้นไว้เป็นหลักประกันเงินกู้ ประธานธนาคารและพวกเจ้าหน้าที่ทุกคนหัวเราะเยาะชายชาวอินเดีย ที่เอารถเฟอรารี่คันละ 250,000 ดอลลาร์ มาเป็นหลักประกันเงินกู้แค่ 5,000 ดอลลาร์ แล้วพนักงานธนาคารก็ขับเฟอร์รารี่ เข้าไปจอดไว้ในที่จอดรถใต้ดินของธนาคาร

...สองสัปดาห์ต่อมา ชาวอินเดียคนนั้นกลับมา พร้อมชำระเงินกู้ 5,000 ดอลลาร์ และดอกเบี้ย เป็นจำนวน 15.41 ดอลลาร์

เจ้าหน้าที่สินเชื่อกล่าวว่า "ท่านครับ, ทางเรามีความยินดียิ่ง ที่ได้ทำธุรกิจกับท่าน และธุรกรรมครั้งนี้ก็ดำเนินไปด้วยดี เพียงแต่เรามีข้อสงสัยเล็กน้อย คือหลังจากท่านกลับไปแล้ว เราได้ตรวจสอบและพบว่า ท่านเป็นมหาเศรษฐีพันล้าน สิ่งที่เราสงสัยก็คือ ทำไมท่านต้องเดือดร้อนมากู้เงินแค่ 5,000 ดอลลาร์ด้วย"

ชายชาวอินเดียตอบว่า "แล้วมีที่ไหนในนิวยอร์ก ที่ผมจะจอดรถของผม เป็นเวลา 2 อาทิตย์ โดยเสียค่าจอดแค่ 15.41 ดอลลาร์ แล้วยังแน่ใจได้ด้วยว่า มันจะยังอยู่ตอนผมกลับมา"!!!



[cr/via: oui_tiva #LINE AC97]

Friday, November 26, 2010

สุดยอดการแก้โจทย์ฟิสิกส์ระดับโลก

[cr/via Dherapol >> Facebook group "Intania 66"]

ข้อสอบฟิสิกส์ของมหาวิทยาลัย และคำตอบของนักศึกษาคนหนึ่ง
โจทย์ข้อหนึ่งในข้อสอบวิชาฟิสิกส์ของมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกนมีดังนึ้

"จงอธิบายว่าท่านจะใช้บารอมิเตอร์วัดความสูงของตึกระฟ้าได้อย่างไร"

รู้จักกันนะครับ ว่าบาร์รอมิเตอร์นี่ก็คือเครื่องมือวัดความกดอากาศนั่นเอง
(อธิบายเพิ่มเติมก็คงต้องบอกว่า อากาศนั้นมันมีน้ำหนักหรือมีแรงกดนั่นเอง
และแรงกดของอากาศนั้นเมื่ออยู่ในระดับความสูงที่เปลี่ยนไป ความกดอากาศก็เปลี่ยนไปด้วย)

นักศึกษาคนหนึ่งเขียนคำตอบลงไปว่า

"เอาเชือกยาวๆ ผูกกับบารอมิเตอร์แล้วหย่อนลงมาจากยอดตึก แล้วก็เอาความยาวเชือกบวกความสูงบารอมิเตอร์ก็จะได้ความสูงของตึก"
.
.
.
.

ฟังดูเป็นอย่างไรครับคำตอบนี้ ผมฟังครั้งแรกผมยังอมยิ้มเลยครับ
แต่อาจารย์ที่ตรวจข้อสอบไม่นึกขันอย่างผมด้วย
อาจารย์ตัดสินให้นักศึกษาคนนั้นสอบตก
นักศึกษาผู้นั้นยืนยันต่ออาจารย์ที่ปรึกษาว่า
คำตอบของเขาควรจะถูกต้องอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง
และคำตอบของเขาก็สามารถพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์
ทางมหาวิทยาลัยจึงตั้งกรรมการชุดหนึ่งมาตัดสินเรื่องนี้
และในที่สุดคณะกรรมการก็มีความเห็นตรงกันว่า
คำตอบนั้นถูกต้องอย่างแน่นอน
แต่เป็นคำตอบที่ไม่แสดงถึงความรู้ความสามารถทางฟิสิกส์ ดังนั้น
เพื่อเป็นการแก้ข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้น
ทางคณะกรรมการจึงให้เรียกนักศึกษาคนนั้นมา
แล้วให้สอบข้อสอบข้อนั้นอีกครั้งหนึ่งต่อหน้า โดยให้เวลาเพียง 6 นาที
เท่ากับเวลาในการสอบข้อสอบเดิม
เพื่อหาคำตอบที่แสดงให้เห็นถึงความรู้ทางด้านฟิสิกส์

หลังจากผ่านไป 3 นาที นักศึกษาคนนั้นก็ยังนั่งนิ่งอยู่
กรรมการจึงเตือนว่า เวลาผ่านไปครึ่งหนึ่งแล้วจะไม่ตอบหรืออย่างไร
นักศึกษาหัวรั้นจึงตอบว่า เขามีคำตอบมากมายที่เกี่ยวกับฟิสิกส์
แต่ไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะใช้คำตอบไหนดี
และเมื่อได้รับคำเตือนอีกครั้ง
นักศึกษาจึงเขียนคำตอบลงไปดังนี้

ให้เอาบารอมิเตอร์ขึ้นไปบนดาดฟ้าตึกและทิ้งลงมา จับเวลาจนถึงพื้น, ความสูงของตึกหาได้จากสูตร H=0.5g*t กำลัง 2
หรือถ้าแดดแรงพอ
ให้วัดความสูงบารอมิเตอร์แล้วก็วางบารอมิเตอร์ให้ตั้งฉากพื้น แล้ววัดความยาวของเงาบารอมอเตอร์
จากนั้นก็วัดความยาวของเงาตึก แล้วคิดด้วยตรีโกณมิติก็จะได้ความสูงของตึกโดยไม่ต้องขึ้นไปบนตึกด้วยซ้ำ

หรือถ้าเกิดอยากใช้ความสามารถด้านวิทยาศาสตร์มากกว่านี้
ก็เอาเชือกเส้นสั้นๆ มาผูกกะบารอมิเตอร์แล้วแกว่งเหมือนลูกตุ้ม ตอนแรกก็แกว่งระดับพื้นดิน แล้วก็ไปแกว่งอีกทีบนดาดฟ้า ความสูงของตึกจะหาได้จาก ความแตกต่างของคาบการแกว่ง
เนื่องจากความแตกต่างของแรงดึดดูดจากจุดศูนย์กลางของมวล
คำนวณจาก T = 2 พาย กำลัง 2 รากที่ 2 ของ l/g

ถ้าตึกมีบันไดหนีไฟก็ง่ายๆ
ก็เดินขึ้นไปเอาบารอมิเตอร์ทาบแล้วก็ทำเครื่องหมายไปเรื่อยๆ
จนถึงยอดตึกนับไว้คูณด้วยความสูงของบารอมิเตอร์ก็ได้ความสูงตึก

แต่ถ้าคุณเป็นคนที่น่าเบื่อและยึดถือตามแบบแผนจำเจซ้ำซาก
คุณก็เอาบารอมิเตอร์วัดความดันอากาศที่พื้นและที่ยอดตึก คำนวณความแตกต่างของความดันก็จะได้ความสูง

ส่วนวิธีสุดท้ายง่ายและตรงไปตรงมาก็คือ
ไปเคาะประตูห้องภารโรง [ไม่มีผ้าเหลืองนะ] แล้วบอกว่า อยากได้บารอมิเตอร์สวยๆ ใหม่เอี่ยมสักอันไหม ช่วยบอกความสูงของตึกให้ผมทีแล้วผมจะยกให้.
.
.
.
.

นักศึกษาคนนั้นคือ นีล โบร์
ผู้ได้รางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปีค.ศ.1922

Friday, May 14, 2010

TheClyde's humor archive: Worms

A biology teacher wished to demonstrate to his students the harmful effects of alcohol on living organisms. For his experiment, he showed them a beaker with pond water in which there was a thriving civilization of worms. When he added some alcohol into the beaker the worms doubled-up and died.

"Now," he said, "what do you learn from this?"
An eager student gave his answer.

"Well the answer is obvious," he said "if you drink alcohol, you'll never have worms."

Tuesday, December 2, 2008

ปรากฏการณ์ ดาวเคียงเดือน/พระจันทร์ยิ้ม :)

เมื่อวานนี้ตอนหัวค่ำ: ดวงจันทร์ + ดาวศุกร์ + ดาวพฤหัส
  • http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I7273801/I7273801.html
  • http://www.pantip.com/cafe/home/topic/R7274018/R7274018.html
  • http://news.mcot.net/local/inside.php?value=bmlkPTIyMjc3Jm50eXBlPWNsaXA=
  • http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9510000142101




สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่ง ชาติระบุว่า เป็นปรากฏการณ์ดวงจันทร์ ดาวศุกร์และดาวพฤหัสบดีอยู่ใกล้กัน (Conjunction of Moon, Venus and Jupiter) ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ในช่วงหัวค่ำของวันที่ 1 ธ.ค.นี้ โดยดาวศุกร์ และดาวพฤหัสบดีอยู่ห่างกันเพียง 2 องศา และดวงจันทร์ปรากฏเป็นเสี้ยว หันด้านมืดเข้าหาดาวเคราะห์ทั้งสองพอดี ทั้งนี้ดาวศุกร์จะสว่างกว่าดาวพฤหัสบดีและอยู่เยื้องต่ำกว่าเล็กน้อย


เผยคำทำนายปรากฎการณ์พระจันทร์ยิ้ม
(http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=184133&NewsType=1&Template=1)

“พระจันทร์ยิ้ม” หรือปรากฏการณ์ดาวเคียงเดือน โผล่ให้ชาวไทยได้ยลโฉม ฮือฮากันทั้งบ้านเมือง โหรดังเผยเป็นเรื่องดี เปรียบเหมือนพระ “ปางห้ามญาติ” นำไปสู่ความสงบสุข หลายคนแห่แหนถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึก ส่วนต่างจังหวัดตื่นเต้นไม่แพ้กัน จับกลุ่มนั่งชมกันในหลายพื้นที่ แต่พ่อเฒ่าเมืองสุรินทร์ ชี้อาจเป็นการยิ้มเยาะเตือน ให้คนไทยมีสติเลิกทะเลาะกัน เผยต้องรออีก 44 ปี ถึงมีให้เห็นอีกครั้ง

พระจันทร์ยิ้มหรือปรากฏการณ์ดาวเคียงเดือนโผล่ให้ชาวไทยยลโฉม ฮือฮากันทั่วบ้านทั่วเมืองครั้งนี้ ได้รับการเปิดเผยเมื่อเวลา 18.00 น. วันจันทร์ที่ 1 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้เกิดปรากฏการณ์ดาราศาสตร์สวยงามบนท้องฟ้าในช่วงหัวค่ำ ที่นักดาราศาสตร์เรียกว่า “ดาวเคียงเดือน” สามารถสังเกตเห็นได้ทั่วกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดที่มีท้องฟ้าเปิด โดยปรากฏการณ์ดาวเคียงเดือนจะเห็นดาวเคราะห์ สว่างสุกใส 2 ดวง คือดาวศุกร์และดาวพฤหัสบดี พร้อมกับดวงจันทร์เสี้ยวมาปรากฏอยู่ใกล้กันทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ หลังจากพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว เมื่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้าจะมองเห็นเป็นลักษณะเหมือนพระจันทร์ยิ้ม