Sunday, December 21, 2014

หลอดตะเกียบ ถ้าแตก ต้องทำอย่างไร?

กระทรวงสาธารณสุขของประเทศอังกฤษ เผยแพร่คำเตือนที่เป็นประโยชน์ เกี่ยวกับอันตรายจากหลอดไฟประหยัดพลังงาน โดยรายงานว่า หลอดไฟประหยัดพลังงานหรือหลอดกินไฟน้อยทั้งหลายนั้น ถ้ามันเกิดแตกขึ้นมาล่ะก็ อันตรายอย่าบอกใคร

สิ่งแรกที่จะต้องทำหลังจากที่หลอดไฟเกิดแตกอย่างกะทันหันนั้น คือควรจะรีบอพยพทุกคนที่อยู่ภายในห้องนั้นออกมาให้หมด และไม่ควรเข้าไปอีกเป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที เพราะจะมีสารปรอท (สารพิษ) ที่อยู่ในหลอดไฟ ฟุ้งกระจายออกมาทั่วบริเวณ ซึ่งหากสูดดมสารปรอทเข้าสู่ร่างกายจะทำให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรน วิงเวียนศีรษะได้ และสำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้ หากสัมผัสหรือสูดดมสารนี้เข้าไป อาจทำให้ผิวหนังเกิดผดผื่นคันและแพ้อย่างรุนแรงได้

นอกจากนี้ทางกระทรวงฯ ยังแนะนำอีกว่า หากจะทำความสะอาดหลอดไฟที่แตก ก็ไม่ควรทำความสะอาดเศษของหลอดไฟด้วยเครื่องดูดฝุ่น เพราะมันจะทำให้สารพิษแพร่กระจายไปยังห้องอื่นๆ ได้ เมื่อใช้เครื่องดูดฝุ่นเครื่องเดียวกันในครั้งต่อไป ฉะนั้นควรจะทำความสะอาดด้วยไม้กวาดหรือแปรง และเก็บเศษหลอดไฟและอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ใช้นั้นในถุงปิดผนึก และนำไปทิ้งนอกอาคารในถังประเภทสำหรับทิ้งวัตถุอันตราย

Tuesday, December 9, 2014

พระราชดำรัสฯ: เรื่อง...

พระราชดำรัส ของในหลวงของเรา

  1. เรื่องด่วน พูดให้ช้า ๆ
  2. เรื่องใหญ่ พูดให้ชัด ๆ
  3. เรื่องเล็ก พูดให้มีอารมณ์ขัน
  4. เรื่องไม่มั่นใจ ทบทวนให้ดีค่อยพูด
  5. เรื่องยังไม่เกิด อย่าพูดส่งเดช
  6. เรื่องที่ทำไม่ได้ อย่าพูดอย่างมักง่าย
  7. เรื่องให้ร้าย อย่าได้พูด
  8. เรื่องลำบากใจ มุ่งที่เรื่อง ไม่มุ่งคน
  9. เรื่องสนุก ต้องดูกาละเทศะ
  10. เรื่องเศร้า อย่าได้เจอใครก็พูด
  11. เรื่องคนอื่น พูดอย่างระมัดระวัง
  12. เรื่องตนเอง ตั้งใจฟังใจเราพูดอย่างไร
  13. เรื่องปัจจุบัน ทำแล้วค่อยพูด
  14. เรื่องอนาคต ไว้พูดในอนาคต

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

Friday, October 31, 2014

Cancer is Natural

เพื่อนจาก รพ จุฬาส่งมาให้
น่าสนใจนะ

Shafin de Zane presents: What is Cancer?

นี่คือสิ่งที่คุณไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่า จะมีผู้ใดกล่าวว่า - มะเร็ง คือ ธรรมชาติ (Cancer is Natural)
มะเร็ง คือ ธรรมชาติของวิวัฒนาการของเซลล์ในร่างกายคนเรา
น่าแปลกใจไหมครับ ?
ขออนุญาตให้ผมได้อธิบาย
หน่อย....   ไม่กี่วันมานี้  ในขณะที่ผมกำลังทำงานวิจัยเกี่ยวกับวิวัฒนาการ
ผมพบสาระสำคัญ คือ การปรับตัว (adaptation)
เมื่อเซลล์ในร่างกายของเราผ่าเหล่า (mutate) ไปเพราะสภาพแวดล้อมที่
เปลี่ยนไป  เพื่อทำให้เราสามารถปรับตัวไปตามเปลี่ยนแปลงนั้นได้  เราเรียกการปรับเปลี่ยนนั้นว่า - การปรับตัว (adaptation)

หากผมของเรายาวขึ้น เพื่อตอบสนองต่ออากาศหนาวจัด - นั่นก็คือการปรับตัว
หากเซลล์ผมของเราหยุดยาว  เพื่อตอบสนองต่ออากาศร้อน - นั้่นก็คือการปรับตัว

เมื่อเราปรับตัวไปตามสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปได้สำเร็จ วิวัฒนาการจึงเกิดขึ้น
เป็นเหตุ-เป็นผลไหมครับ ?
อีกครั้งนะครับ  -  เซลล-ผ่าเหล่าไป-เพื่อปรับตัวตามสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป  มันเป็นสิ่งที่เป็นธรรมชาติ

มะเร็ง คือ กลุ่มของเซลล์ที่ผ่าเหล่าไป
เพราะสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็น
ธรรมชาติ-อันเนื่องมาจากการที่เลือดของเรากลายเป็นพิษเกินกว่าที่
เซลล์จะมีชีวิตต่อไปได้   ถ้าหากเซลล์เหล่านั้นไม่ผ่า
เหล่าไป เซลล์เหล่านั้นจะป่วยและตาย  เซลล์เหล่านั้นจึงตอบสนองอย่างเป็นธรรมชาติด้วยการผ่า
เหล่า  เพราะเซลล์ในร่างกายมนุษย์มีความสามารถที่จะปรับตัวเพื่อ
รับมือกับการเปลี่ยนแปลง  การปรับตัวของเซลล์จึงเป็นสิ่งที่เป็นธรรมชาติ

เป็นที่น่าเสียดายว่า  คุณหมอทั่วโลก บอกกับเราว่า  วิธีการรักษามะเร็ง คือ การบำบัดด้วย-คีโม หรือการทำลายเซลล์มะเร็ง
ด้วยรังสี  แต่สิ่งที่คุณหมอไม่ได้บอกเราคือ ทำไมเซลล์มะเร็งจึงผ่าเหล่า
ตั้งแต่แรก ?   อย่างไรก็ตาม-เมื่อสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไป  เซลล์อีกจำนวนมากก็จะผ่า
เหล่า-ต่อไปอีก-ไม่เร็วก็ช้า  นั่นเป็นสาเหตุที่เราพบเห็น
ผู้ป่วยมะเร็งถูกให้คีโม ดีขึ้นเพียงชั่วคราว แล้วกลับทรุดลงไปใหม่อีก

จากมุมมองของเซลล์  หากมันไม่ผ่าเหล่า-มันจะต้องตาย   การผ่าเหล่าของเซลล์จึง
เป็นธรรมชาติ
มะเร็ง แท้จริงแล้ว คือ  วิวัฒนาการของกลุ่มเซลล์ที่พยายามรอดตายจากสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษ แต่ทั้งหมดนี้ก็กลายเป็นสิ่งที่
ควบคุมไม่ได้ เพราะเซลล์เหล่านั้นลงเอยด้วยการ-ฆ่าร่างกาย แต่นั้นไม่ใช่ประเด็นที่แท้จริง

มะเร็ง คือ วิวัฒนาการของกลุ่มเซลล์ที่พยายามจะรอดตายในสภาพ
แวดล้อมที่เป็นพิษอย่างสูง  เราต้องพยายามทำความ
เข้าใจในประเด็นนี้ให้ชัดเจน  การพยายามฆ่าเซลล์เหล่านั้น-โดยไม่ได้เปลี่ยนแปลง
สภาพแวดล้อม  เปรียบได้กับการฆ่าแมลงวัน โดยไม่ได้พยายามเอา
ขยะออกไป

เอาละ คุณจะลงมืออย่างฉับพลัน-เพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อม
ของคุณอย่างรวดเร็วได้
อย่างไร
มีวิธีการง่ายๆด้วยกัน 3 วิธีคือ:

วิธีที่ 1. หายใจลึกๆ - หายใจลึกๆ
สิ่งแรกที่กระตุ้นให้เซลล์ผ่าเหล่าและกลายเป็นเซลล์มะเร็ง
คือ  การขาดออกซิเจน
เซลล์มะเร็งปรับตัวเพื่อรอดชีวิตในสภาพแวดล้อมที่มี
ระดับออกซิเจนต่ำ  ยิ่งมีออกซิเจนต่ำเท่าไร  เซลล์มะเร็งก็ยิ่งเติบโตได้มากขึ้นเท่านั้น เพราะนี่คือวิวัฒนาการของเซลล์ที่ปกติซึ่งต้องการจะรอดชีวิตอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมที่มีระดับออกซิเจนต่ำ  - วิธีแก้ไขคือ หายใจลึกๆ  ซึ่งเป็นการออกกำลังง่ายๆที่ทำได้ทุกเช้าเพื่อเพิ่มระดับ
ออกซิเจนให้กับเลือด

เดิน 5 นาที
แล้วหายใจแบบนี้ คือ
หายใจเข้า 4 ครั้ง ติดกัน
กลั้นหายใจแล้วนับ 1 ถึง 4
หายใจออกช้าๆ 4 ครั้ง ติดกัน

ทำอย่างนี้ครับ
>>>>
1-2-3-4
<<<<

ทำอีกครั้งครับ
>>>>
1-2-3-4
<<<<

ผมหายใจเข้าทางจมูก >>>>
กลั้นใจแล้วนับ 1-2-3-4
หายใจออกทางปาก <<<<

หายใจเข้าไปในท้อง  ไม่ใช่หายใจเข้าไปในอก  นี่คือวิธีการหายใจที่ถูกต้อง
ถ้าหากไม่มีที่เดิน  ให้เดินในห้องนอนของคุณ เพราะมันมีที่พอสำหรับ
การออกกำลังของเราทุกวิธี

วิธีที่ 2 หยุดรับประทาน-กรด
สิ่งที่สองที่มากระตุ้นเซลล์ให้ผ่าเหล่ากลายเป็นเซลล์มะเร็ง คือ สภาพแวดล้อมที่เป็นกรด เพราะนั่นคือการตอบสนองที่จะทำให้เซลล์รอดชีวิตได้ในสภาพแวดล้อมที่เป็นกรด เซลล์ที่ผ่าเหล่าจะตายในสภาพแวดล้อมที่เป็นด่าง  และเติบโตในสภาพ
แวดล้อมที่เป็นกรด   คุณจะทำให้ร่างกายของคุณ
เป็นด่างได้ ก็ด้วยการรับประทาน
อาหารที่เป็นด่างมากขึ้น

น้ำผัก น้ำผลไม้ มีประสิทธิภาพสูงมาก
งดน้ำตาล โคคา-โคล่า เปปซึ่ และน้ำอัดลมทุกชนิด กาแฟ  เนื้อสัตว์ นม บุหรี่ และ แอลกอฮอล์
รับประทานผักสดสีเขียว ผลไม้สด น้ำด่าง และน้ำมะพร้าว หากคุณต้องการเห็นการ
เปลี่ยนแปลงของสุขภาพอย่างน่าอัศจรรย์ในระยะเวลาอันสั้น  ดื่มน้ำผักสดปั่นทุกเช้า โดยไม่ต้องรับประทานอะไรอีกเลย   จนกว่าจะถึงมื้อเที่ยง-นำผักใบเขียวหลากชนิด มะเขือเทศ แตงกวา ปั่นกับน้ำสะอาดแล้วดื่ม คุณอาจจะคิดว่า มันไม่น่าดื่มเลย  แต่มันไม่เลวร้ายและออกจะ
อร่อยด้วยซ้ำไปเมื่อคุณ
คุ้นเคยกับมัน

วิธีที่ 3 ดูแลร่างกายของคุณ
ความเครียด ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
ความเครียด คือ ฆาตกรเบอร์หนึ่ง และเป็นต้นเหตุที่ก่อให้เกิดโรค-ทุกโรค
ความเครียด เพิ่มกรดและส่งผลกระทบต่อ
ทุกสิ่งทุกอย่างในร่างกาย  มันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่เราจะต้องทำจิตใจให้แข็งแรงเบิกบานอยู่เสมอ

คุณจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร ?
ทำสมาธิ ดูหนังตลก  ละเว้นจากการดูข่าวร้าย
และเรื่องเลวร้าย  อ่านหนังสือดีๆที่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ หาสัตว์มาเลี้ยง พบเพื่อนใหม่ๆ สัมพันธภาพใหม่ๆ ปลดความทุกข์ความสลดใจ
เก่าๆและสิ่งเลวร้ายต่างๆที่ผ่าน
ไปแล้ว  และแชร์ข้อมูลนี้ให้กับผู้อื่นต่อไปให้มากที่สุดที่คุณจะทำได้

ความเจ็บปวด และ ความเสียหาย ที่เกิดจากการบำบัดด้วยคีโม เลยเถิดไปอย่างเหนือ
คำบรรยาย
ช่วยให้ผู้อื่นตื่นจากฝันร้ายที่เกิดจากโฆษณาชวนเชื่อของผู้ผลิตยากันเสียที  การป้องกันและรักษาตนเองให้หายจากมะเร็งเป็นสิ่งที่ง่ายดายเสียจนแทบจะเป็นเรื่องตลกอย่างเหลือเชื่อ

ใช้ความคิดให้ถูกต้อง
จงเปลี่ยนน้ำในบ่อปลาเมื่อปลาป่วย
เพราะการทำลายบ่อปลา ไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้อง
มาช่วยกันทำให้โลกของเราในวันนี้-น่าอยู่ขึ้น

Shafin de Zane
- บรรยาย (ภาษาอังกฤษ)
http://www.youtube.com/watch?v=P_OHAtVzeB0

ดร.ชนิสา อรรถจินดา - แปล
Chanisa Arthachinda, Ph.D.

Sunday, October 19, 2014

สมศักดิ์ ไปซื้อบุหรี่ที่ร้านแห่งหนึ่ง
ซื้อ 20 บาท ให้แบงค์ไปใบละ 50

เถ้าแก่ถอนให้ 40 สมศักดิ์เก็บใส่กระเป๋าแล้วก็เดินไป...

ไปได้ไม่ไกล เถ้าแก่วิ่งไล่มา
“คุณลืมเอาบุหรี่ที่ซื้อไป”

สมศักดิ์ซึ้งมาก หยิบ 10 บาทคืนให้เถ้าแก่
“อันนี้คุณทอนเกิน”

เถ้าแก่ตะลึง
“ไอ้หนุ่ม เอาบุหรี่เมื่อกี้คืนมา เอาของแท้ไป”

สมศักดิ์ซึ้ง จนกลั้นน้ำตาไม่อยู่
“เถ้าแก่ เอาแบงค์ 50 เมื่อกี้มา ผมเปลี่ยนของจริงให้”

เถ้าแก่รับแบงค์จริงจากสมศักดิ์ ซึ้งมากขึ้นอีก
“ไอ้หนุ่ม เอาเงินทอนเมื่อกี้มา ข้าเปลี่ยนแบงค์จริงให้”

สมศักดิ์ซึ้งอีกครั้งหนึ่ง หยิบมือถือออกมาจากกระเป๋า
“เถ้าแก่ เอามือถือของคุณคืนไป”

เถ้าแก่ซึ้งจนน้ำตาไหล มือไม้สั่นหมด หยิบกระป๋าตังค์ออกมา
“ไอ้หนุ่ม วันหน้าระวังกระเป๋าตังค์ให้ดี ๆ นะ”

!!!...(มันดีทั้งคู่ หรือ เลวทั้งคู่???)

Saturday, September 6, 2014

Test tags

What characters are not supported in tagging?
Try:

  • <LINE
  • /LINE
  • \\:LINE

Saturday, June 21, 2014

ดาวพฤหัสบดี ยกย้ายราศีได้ตำแหน่งที่ดี

ดาวพฤหัสบดี ดาวตัวแทนแห่งความมั่นคง ความสำเร็จ ยกย้ายราศี ในวันที่ 17 มิถุนายน ได้ตำแหน่งที่ดี ในรอบ 12 ปี จะมีผลต่อดวงชะตาของคุณทั้ง 12 ราศีอย่างไร อ.ลักษณ์ เรขานิเทศ มีคำตอบให้คุณแบบฟันธง

Wednesday, June 18, 2014

จดหมายจากในหลวง ถึง สมเด็จพระเทพฯ

6 ตุลาคม 2547
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำเผยแพร่



ลูกพ่อ

ในพื้นแผ่นดินนี้ ทุกสิ่งเป็นของคู่กันมาโดยตลอด มีความมืดและความสว่าง ความดีและความชั่ว ถ้าให้เลือกในสิ่งที่ตนชอบแล้ว ทุกคนปราถนาความสว่างปราถนาความดีด้วยกันทุกคน แต่ความปราถนานั้น จักสำเร็จลงได้ จักตัองมีวิธีที่จักดำเนินให้ไปถึงความสว่างหรือความดีนั้น ทางที่จักต้องไปให้ถึงความดี นั้นก็คือ รักผู้อื่น เพราะความรักผู้อื่น สามารถแก้ปัญหาได้ทุกปัญหา ถ้าให้โลกมีแต่ความสุขและเกิดสันติภาพ ความรักผู้อื่นจักเกิดขึ้นได้

พ่อขอบอกลูกดังนี้....

  1. ขอให้ลูกมองผู้อื่นว่าเป็นเพื่อนเกิด เพื่อนแก่ เพื่อนเจ็บ เพื่อนตาย ด้วยกัน ทั้งหมด ทั้งสิ้น ไม่ว่าอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
  2. มองโลกในแง่ดี และจะให้ดียิ่งขึ้น ควรมองโลกจากความเป็นจริง อันจักเป็นทางแก้ปัญหาอย่างถูกต้องและเหมาะสม
  3. มีความสันโดษ คือ มีความพอใจเป็นพื้นฐานของจิตใจ พอใจตามมีตามได้ คือ ได้อย่างไรก็เอาอย่างนั้น ไม่ยึดติด ขอให้คิดว่า มีก็ดี ไม่มีก็ได้ พอใจตามกำลัง คือ มีน้อยก็พอใจตามที่ได้น้อย
    • ไม่เป็นอึ่งอ่างพองลม จะเกิดความเดือดร้อนในภายหลัง
    • พอใจตามสมควรคือทำงาน ให้มีความพอใจ เหมาะสมแก่งาน
    • ให้ดำรงชีพให้เหมาะสมแก่ฐานะของตน
  4. มีความมั่นคงแห่งจิต คือ ให้มองเห็นโทษของความเกียจคร้าน และมองเห็นคุณประโยชน์ของความเพียร
และเมื่อเกิดสิ่งที่ไม่พึงปราถนา ให้ภาวนาว่า
มีลาภมียศ
สุขทุกข์ปรากฎ สรรเสริญนินทา
เสื่อมลาภเสื่อมยศ เป็นกฎธรรมดา
อย่ามัวโศกา นึกว่า"ชั่งมัน"


พ่อ
6/10/2547




สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงมีพระราชปารภทิ้งท้าย

ฉันหวังว่า....คำสอนพ่อ ที่ฉันได้ประมวลมานี้ จะเกิดประโยชน์แก่ท่านผู้อ่านที่ได้พบเห็น และลูกอันเป็นที่รักของพ่อทุกคน ฉันรักพ่อฉันจัง
สิรินทร



จดมายส่งต่อ อ่านแล้วซาบซึ้งเหลือเกิน


ทรงพระเจริญ

Sunday, June 15, 2014

ทำไมเยอรนีถึงเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จ?

ข้อคิดดีๆนำมาแบ่งปันกันครับ
19 ข้อไขความลับ ทำไมเยอรนีถึงเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จ?

Make me a German สารคดีจาก BBC ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวของครอบครัวชาวอังกฤษ ที่ประกอบด้วยสามี ซึ่งเป็นนักข่าว ภรรยา เป็นนักเขียน และลูกน้อยอีก 2 คน ที่ไปใช้ชีวิตในเยอรมนี เพื่อค้นหาความลับว่า อะไรที่ทำให้ประเทศนี้ประสบความสำเร็จขนาดนี้ โดยบทความนี้ Wegointer ได้แบ่งออกมาเป็น 19 ข้อด้วยกันว่า อะไรที่ทำให้ประเทศเยอรนี เป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จ?

  1. ระดับหนี้สินต่อครัวเรือนของคนเยอรมันอยู่ในระดับต่ำมากที่สุดในยุโรป ชาวบ้านทั่วไปนิยมใช้จ่ายด้วยเงินสดมากกว่าบัตรเครดิต
  2. ธนาคารไม่อนุมัติบัตรเครดิตให้กันง่ายๆ ในขณะที่ชาวเยอรมันก็ไม่ต้องการได้บัตรเครดิตง่ายๆ เช่นกัน
  3. คนเยอรมันสามารถออมเงินได้ 10% ของเงินเดือนแทบทุกคน
  4. ผู้คนส่วนใหญ่มีเงินฝากในธนาคารเป็นกอบเป็นกำ ทำให้ระบบการหมุนเวียนของเงินกู้กับเงินฝากสมดุลกันได้ดี
  5. คนเยอรมันไม่นิยมเอาบ้านหรือรถยนต์ไปจำนองเพื่อนำเงินมาทำธุรกิจ เพราะถือว่าเป็นความเสี่ยงที่อาจจะสูญเสียทรัพย์สินที่มีอยู่
  6. คนเยอรมันใช้เวลาทำงานต่อสัปดาห์น้อยกว่าคนในชาติอื่นๆ ทั่วโลก แต่ได้ประสิทธิภาพมากกว่า
  7. การทำงานล่วงเวลาถูกมองว่าเป็นสิ่งไม่เหมาะสม เนื่องจากการให้เวลากับครอบครัวหลังเลิกงานถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก
  8. เวลาแปดชั่วโมงต่อวัน คนเยอรมันทำงานอย่างจริงจังในเวลางาน ไม่เสียเวลาไปกับการพูดคุยเรื่องอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับงาน
    อีเมลล์ส่วนตัว Facebook และโทรศัพท์มือถือ …เป็นที่รู้กันว่าไม่ควรใช้ในชั่วโมงทำงาน
  9. นักข่าวชาวอังกฤษที่ไปทำงานในโรงงาน Faber & Castel ที่เยอรมนี ถูกต่อว่าจากเพื่อนร่วมงานทันทีที่หยิบโทรศัพท์เพื่อต้องการส่ง SMS แค่ครั้งเดียว
  10. ชีวิตในที่ทำงานที่นี่เขาจริงจังกันมาก ไม่มีการพูดคุย นินทา ไม่อยากรู้อยากเห็นว่าใครเป็นแฟนใคร ใครเลิกกับใคร ใครจะไปออกเดทกับใคร ไม่แม้แต่จะเล่าเรื่องละครทีวีที่ดูเมื่อคืน เลิกงานแล้วจะไปไหน จะไปทานดินเนอร์กับใคร ก็ไม่มีการพูดคุยกัน
  11. การมาทำงานสายจะถูกมองว่าเป็นคนไม่รักษาสัญญา จะมาสายสามนาทีหรือสามสิบนาที ก็ถือว่าเป็นคนไม่มีคุณภาพ เพราะขาดความเคารพต่อตัวเองและองค์กร
  12. สองในสามของคุณแม่มือใหม่จะไม่ทำงานนอกบ้าน การบอกว่าเป็น Housewife ในประเทศอื่น ๆ อาจจะรู้สึกเขินอายเหมือนว่าตนเองไม่มีงานทำ แต่ที่นี่มีแต่ความภาคภูมิใจหากจะได้เป็น Housewife
  13. รัฐบาลให้สวัสดิการดีกับคุณแม่ที่ต้องออกจากงาน ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการให้แม่ได้เลี้ยงดูลูกด้วยตนเอง การให้เวลากับลูกถือเป็นสิ่งสำคัญ
  14. ในวันอาทิตย์ ร้านรวงทั่วไปตามแหล่ง Shopping จะปิดเงียบ เพื่อให้ผู้คนส่วนใหญ่มีเวลาอยู่กับครอบครัว เมื่อสถาบันครอบครัวแข็งแรงประเทศชาติก็จะแข็งแรง
  15. ในยามยากของเศรษฐกิจ บริษัทส่วนใหญ่ไม่ใช้วิธีการ Layoff พนักงาน ไม่นิยมการปลดคนงานออกแบบกระทันหัน เพื่อความอยู่รอดของบริษัท
  16. อาจจะเรียกว่าเป็นวัฒนธรรมองค์กรไปเสียแล้ว ที่บริษัทจะเป็นห่วงความอยู่รอดของพนักงานก่อน เพื่อที่จะได้ช่วยกันประคองให้บริษัทอยู่รอด
  17. พนักงานยินดีที่จะถูกลดรายได้อย่างพร้อมเพียงกัน เพื่อให้ทุกคนอยู่ได้และบริษัทอยู่รอด  สิ่งนี้จึงสะท้อนให้เห็นถึงการรักพวกพ้อง รักองค์กร และรักชาติในที่สุด
  18. ทีมชาติฟุตบอลของเยอรมนี จะไม่ค่อยมีดาวเด่นที่โด่งดังระดับโลก แต่ก็สามารถคว้าแชมป์โลกได้ถึง 3 สมัย ด้วยทักษะการเล่นอย่างเป็นทีมเวิร์คมากกว่าความสำเร็จจากความสามารถเฉพาะบุคคล
  19. การใช้ชีวิตแบบพอเพียง ประหยัด จริงจังในหน้าที่ มีระเบียบวินัย ตรงต่อเวลา มีความรับผิดชอบสูง รักครอบครัว รักพวกพ้อง รักชาติ เหล่านี้ล้วนเป็นอุปนิสัยขั้นพื้นฐานที่คนส่วนใหญ่ในเยอรมนีได้ปฏิบัติสืบต่อกันมา

Tuesday, April 1, 2014

ปลาทูไหม้

แม่ของผมเป็นคนทำอาหารที่บ้านประจำทุกวัน...
คืนหนึ่งหลังจากที่แม่ทำงานหนักมาตลอดทั้งวัน พอแม่กลับบ้านมาด้วยความเหนื่อยล้า และทำอาหารเย็นให้เราปกติ ที่โต๊ะอาหารแม่วางจานที่มีปลาทูที่ไหม้เกรียม บนโต๊ะต่อหน้าพ่อและทุกๆคน....

ผมรอว่าแต่ละคนจะว่าอย่างไร.....

แต่...พ่อไม่พูดอะไร และตั้งหน้าตั้งตากินปลาทูไหม้ตัวนั้น และหันมาถามผมว่าที่โรงเรียนเป็นอย่างไรบ้าง

คืนนั้นหลังอาหารเย็น ผมจำได้ว่า ได้ยินแม่ขอโทษพ่อที่ทอดปลาทูไหม้...และผมไม่เคยลืมที่พ่อพูดกับแม่เลย "โอย...ผมชอบปลาทูทอดเกรียมๆ ...อร่อยมากนะแม่"

คืนต่อมา ผมเก็บคำถามในใจก่อนนอน และถามพ่อว่า "พ่อชอบปลาทูทอดเกรียมๆ จริงๆ เหรอ?"

พ่อลูบหัวผม และ ตอบว่า....
แม่ของลูกทำงานหนักมาทั้งวัน... ปลาทูไหม้ 1 ตัว ไม่เคยทำร้ายใคร แต่คำพูดที่ต่อว่ากันต่างหากที่จะทำร้ายกัน
ชีวิตคนเราเต็มไปด้วยความไม่สมบูรณ์แบบ และแต่ละคนก็ไม่ได้เกิดมาสมบูรณ์แบบ ตัวเราเองก็ไม่ได้มีอะไรดีกว่าใครๆ
พ่อเองก็เป็นคนหนึ่งที่เคยลืมวันเกิดแม่ วันครบรอบวันแต่งงาน  และเแม้แต่พ่อเองยังเคยลืมทำบุญวันเกิดของพ่อและแม่ของพ่อเองตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่เลยแต่สิ่งที่พ่อเรียนรู้ ในช่วงชีวิตคือ.....การเรียนรู้ที่จะยอมรับความผิดของคนอื่น และของตัวเอง 
การเลือกที่จะยินดีกับความคิดต่างกันของแต่ละบุคคลเป็นสิ่งสำคัญ ในการรักษาชีวิตครอบครัวที่มีความสุขและยืนยาวชีวิตเราสั้นเกินกว่าที่จะตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเสียใจที่ว่า เราทำผิดกับคนที่เรารักและรักเรา ให้ดูแลและทะนุถนอมคนที่รักเรา และพยายามเข้าใจและให้อภัยจะดีกว่า

ถ้าเรารู้ เราจะทำไหม?


  • เราจะบีบแตรใส่คนที่ยืนยึกยักริมถนนแยกที่ผ่านมาไหม – ถ้าเรารู้ว่าเค้าใส่ขาเทียม?
  • เราจะเบียดชนคนข้างหน้าที่เดินช้ามากไหม – ถ้าเรารู้ว่าเค้าเพิ่งตกงาน?
  • เราจะขำคนที่แต่งตัวเชยไหม – ถ้าเรารู้ว่าเค้ามีชุดเก่งแค่ชุดเดียว?
  • เราจะรำคาญสาวโรงงานที่มาเดินพารากอนไหม – ถ้าเรารู้ว่านั่นคือการฉลองวันเกิดของเธอ?
  • เราจะหมั่นไส้ลุงที่หัวเราะเสียงดังลั่นคนนั้นไหม – ถ้ารู้ว่าแกเป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย?
  • เรารู้แจ่มชัดเสมอ…ว่าชีวิตเรากำลังเจออะไร แต่เราไม่มีวันรู้ว่า "คนที่เราเจอ – กำลังเจอกับอะไร"


โลกกว้างกว่าเงาของเรา และโลกก็ไม่ได้หมุนรอบตัวเรา
มองข้ามเรื่องเล็กๆน้อยๆไปบ้าง ให้โอกาสและให้อภัย มีความเข้าใจซึ่งกันและกัน จะได้รักและอยู่ด้วยกันอย่างยั่งยืน ยาวนาน

อภัยให้แก่กันในวันนี้ ดีกว่าอโหสิให้กันวันตาย